จิตอาสา ต.สันทราย อ.สารภี เดินหน้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคก้าวอิสระ สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2568 ที่หมู่บ้านปิงน้อย ตำบลสันทราย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมสมาชิกพรรคฯ เพื่อรับฟังความ คิดเห็นของสมาชิกพรรคก้าวอิสระ ในเรื่องการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวอิสระ โดยมีนางสาวนงลักษณ์ นพรัตน์ หัวหน้าสาขาพรรคก้าวอิสระ ลำดับ ที่ 010 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในที่ประชุมฯ มีเครือข่ายพรรคฯเข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน

โดยในที่ประชุม ได้แจ้งเรื่องการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จังหวัดเชียงใหม่ ส.ส.แบบบัญชี รายชื่อ ที่เป็นคนเชียงใหม่ ดังนี้

- นางสาวกชพร เวโรจน์ 2.นายนิเวศน์ สุแก้ว 3.นายกิตติวินท์ แก้วคำมา 4. นายวุฒิพงศ์ ถายะพิงค์ 5.นายอำนาจ โพธิ์กรุณา 6.นายรัชทร พรหมราช 7.นายอัครเดช สุระจินดา 8.นางจินตนา ไชยชมภู 9.นายวริญรดา กันใหม่ 10.ร.ต.ท.ประดิษฐ์ ไชยชมภู 11. นางสาวจิณฑ์ธนัชชา พงสินณัชศุภธร 12.นายยุทธนา คำเหลือง 13.จ.อ. อัครวัฒน์ เรืองรัฐอุดมกุล
และเปิดชื่อแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรค จำนวน 3 คน อันดับแรก นางสาว กชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก นายชาญชัย โตพฤกษา นาย อชิรวิทย์ ทนุก้ำ

ซึ่งสมาชิกในที่ประชุมห็นชอบผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวอิสระ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด ที่ประชุมมีมติเห็นชอบผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคก้าวอิสระทั้งหมด



นายอชิรวิชย์ ทนุก้ำ ที่ลงเป็น 1 ใน แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวอิสระกล่าวว่า “พรรคเราเป็นพรรคแรก และพรรคเดียวในประเทศไทย รวมจิตอาสามาช่วยเหลือ เรื่องปากท้อง เพราะเป็นการรวมกลุ่มของจิตอาสาจริง และที่ผ่านมา นางสาวกชพร หรือมาดามหยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ ก็ทำงานด้านจิตอาสามานานมาก ถึง 29 ปี ตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งนี้เพื่อต้องการเข้ามาอาสารับใช้พี่น้องประชาชน”

ด้านนางบัวจันทร์ กันทะหะ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลสันทราย อำเภอสารภี จังหวัดใหม่จิตอาสาพร้อมช่วยเหลือพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ กล่าวว่า มุมมองทางการเมืองที่ผ่านมานั้นครอบครัวคลุกคลีกับการเมืองมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในตรงนี้มองว่าการเมืองเริ่มมีปัญหาไม่ตอบโจทย์ให้กับประชาชนในในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

วันนี้ถือว่า เป็นประชาชนจิตอาสาท่านหนึ่งที่ต้องการสะท้อนถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ค่อยมองเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านตาดำๆ โดยเฉพาะหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเกษตรกรปลูกพืชผักตามฤดูกาลและพืชหลักคือลำไยซึ่งไม่ได้รับการดูแลเลยในตลอด 10 ปีที่ผ่านมาผลผลิตเป็นไปตามกลไกตลาดไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแลและช่วยเหลือ เรามองว่าลำไยเป็นชีวิตของชาวสวนเกษตรกรในจังหวัดภาคเหนืออย่างเช่นบ้านสันทรายสารภีแห่งนี้น้ำท่วมแทบทุกปีไม่เคยเห็นพรรคการเมืองไหนเข้ามาช่วยเหลือหรือสนับสนุนดูแล ทำให้เกิดการท้อและเบื่อหน่ายการเมือง ณ ตอนนั้น ล่าสุดลำไยในปี 2568 ราคาตกลงมาอยู่ที่2- 6 บาทต่อกิโลกรัมทางเราเองจึงได้มีการเรียกร้องให้ หน่วยงานเข้ามาดูแลแต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือและการที่เข้ามาสนับสนุนของพรรคก้าวอิสระนั้นนอกจากได้รับความช่วยเหลือแล้วเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจในชุมชนยังได้รับความเมตตาจากมาดามหยกช่วยอุดหนุนลำไยเกษตรกรที่หน้านั้นมีราคา ตกต่ำถึง 1000 กิโลกรัมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้เราเกิดความซาบซึ้งใจในการมีน้ำใจของพรรคก้าวอิสระ จากนั้นทางพรรคได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลชาวบ้าน หมู่ 8 ตำบลสันทรายอำเภอสารภีจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยดีตลอดมาหัวหน้าพรรคมาดามหยกได้เข้าพูดคุยพบปะสมาชิกในหมู่บ้าน จากคนที่ท้อในเรื่องการเมืองในวันนั้นมาตลอดหลายปีทำให้ได้รับโอกาสจากมาดามหยก และพรรคก้าวอิสระเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านเกษตรกรครั้งนั้น ทำให้ทุกคนรักพรรคก้าวอิสระและเชื่อมั่นเรื่องของการเมืองมากขึ้นอีกครั้ง

ส่วนนายนิเวศน์ สุแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวอิสระ กล่าวว่า “ด้านจิตอาสาในตอนนี้ผมทำทุกอย่างตั้งแต่ใต้จรดเหนือ ล่าสุดก็คือไปช่วยที่หาดใหญ่ไปช่วยในการฟื้นฟูหรือว่านำผู้ประสบภัยออกมาจากพื้นที่ ช่วยเจ้าหน้าที่แจกอาหาร เพราะเจ้าหน้าที่ไม่พอ ก็ต้องการจิตอาสาแบบเรา และมาดามหยกก็อยู่เคียงข้างตลอด มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคใต้ ที่มีอุกทกภัยทุกที่ และเป็นกลุ่มแรกๆที่เข้าช่วยเหลือประชาชน ซึ่งมาดามหยกอยากให้จิตอาสาจากหน่วยงานต่างๆได้รับสิทธิหรือสวัสดิการเหมือนคนอื่นครับ”



“มาดามหยก” นางสาวกชพร เวโรจน์ หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ ได้กล่าวว่า “พรรคก้าวอิสระเป็นการรวมตัวของจิตอาสาทั่วประเทศ โดยเป็นพรรคแรกและพรรคเดียวของประเทศไทยที่หลอมรวมจิตอาสา เช่นเดียวกับตนเองที่ทำงานจิตอาสามาเป็นปีที่ 29 และคิดว่าประเทศควรที่จะเปลี่ยนและเดินหน้า พร้อมย้ำว่า ไม่อยากทำสถาบันการเมืองแบบเดิมๆ โดยปรึกษากับทีมจิตอาสาที่ทุกคนมีความเสียสละเป็นทุนเดิม จึงเกิดเป็นการทำงานแบบทำการเมืองไม่ใช่เล่นการเมือง ไม่มีการแบ่งสี แยกสี แบ่งฝ่าย “
