กรมอนามัย จับมือกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมวิทยาศาสตร์บริการ จัดงานมอบวุฒิบัตรการอบรม และมอบชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพื่อส่งเสริมด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน และชุมชน ให้มีน้ำบริโภคที่สะอาด ปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ
วันนี้ 30 มิถุนายน 2568 ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่: ได้รับเกียรติจาก นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์ปรับปรุงคุณภาพน้ำ และมอบระบบควบคุมอัตโนมัตเพื่อการผลิตน้ำสะอาด โดยมี นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิการบดีกรมอนามัย, ดร.พจมาน ท่าจีน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ, พล.ต.ต.อพิวัฒน์ กลั่นวารี ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, นายธเนศ มณีกุล ผู้อำนวยการกองกิจกรรมพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ สำนักงาน กปร., นางสาวธิดาพร มีกิ่งทอง รองกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ นายสุรัตน์ ปาละนันทน์ รองเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมพิธีการ และเป็นสักขีพยานในการส่งมอบ
ในการนี้ยังได้มีพิธีมอบวุฒิบัตรให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมฯ หลักสูตรระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อการผลิตน้ำสะอาด และการปรับปรุงคุณภาพน้ำ และการทดสอบน้ำเพื่อการผลิตน้ำสะอาด จำนวน 80 ท่าน อีกทั้งได้มีการปล่อยขบวนรถรับมอบชุดปรับปรุงคุณน้ำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งอีกด้วย
โดยโครงการนี้ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการส่งเสริมโภชนาการ สุขภาพอนามัย และเสริมสร้างศักยภาพทั้งทางวิชาการและการอาชีพของเด็กและเยาวชน ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพสร้างคุณประโยชนต่อประเทศชาติ เพื่อเป็นการสงเสริม และพัฒนาให้น้ำบริโภคของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนมีคุณภาพได้ตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภค และพัฒนาศักยภาพครู เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านการจัดการคุณภาพน้ำบริโภค และเพื่อให้ครูใหญ่หรือครูผู้รับผิดชอบงานการจัดการน้ำและสุขาภิบาลอาหาร และครูนิเทศระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และศูนย์อนามัยมีองค์ความรู้และทักษะ สามารถแก้ไขปัญหาการจัดการคุณภาพน้ำบริโภคและระบบสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียนได้อย่างต่อเนื่อง ถูกต้องตามหลักวิชาการ และส่งต่อองค์ความรู้ให้กับชุมชน
ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงาน อันได้แก่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กรมอนามัย และกรมวิทยาศาสตร์บริการ เล็งเห็นว่าโครงการพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติ นั้นเป็นการดำเนินงานที่เกิดผลประโยชน์กับประชาชนกลุ่มเปราะบางอย่างมาก และสอดคล้องกับบทบาทภารกิจของทั้ง 3 หน่วยงาน ประกอบกับประเด็นเรื่องน้ำบริโภคในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารนั้นเป็นงานที่มีข้อจำกัด และยังเป็นปัญหาอยู่ โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพน้ำที่ไม่สะอาด จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทีมีศักยภาพมาช่วยเหลือกัน เพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย บทบาทกรมอนามัยมีภารกิจในการส่งเสริมให้ประชาชน มีสุขภาพดี โดยให้ความสำคัญในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชนให้มีน้ำบริโภคที่สะอาด ปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ
โดยคาดหวังว่าแต่ละหน่วยงานจะมีความเข้าใจ มีเป้าหมายร่วมกัน ผนึกกำลังในการระดมทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพน้ำบริโภค ของโรงเรียนได้แก่ องค์ความรู้ กำลังคน นวัตกรรม เทคโนโลยี ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้โรงเรียนมีน้ำบริโภคที่สะอาด ปลอดภัย สำหรับนักเรียนและขยายสู่ประชาชนในชุมชนรอบโรงเรียนได้เข้าถึงน้ำบริโภคที่ได้มาตรฐานเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร
