“พาณิชย์” ตรวจเข้มเครื่องคัดขนาดลำไยภาคเหนือกว่า 2,000 เครื่อง ย้ำต้องสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกร

60 Views

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรม “บูรณาการตรวจสอบเครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อน” เพื่อคุ้มครองเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ให้เกิดความเป็นธรรมในการซื้อขายในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมปล่อยขบวนคาราวานสายตรวจเครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยแบบตะแกร่งร่อน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์ชั่งตวงวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่) อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยกองชั่งตวงวัด จัดกิจกรรม “บูรณาการตรวจสอบเครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อน” ประจำปี 2568 ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตลำไยที่สำคัญของประเทศ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ผู้ประกอบการ โรงอบ และผู้ส่งออก ให้เกิดความเป็นธรรมในการซื้อขาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดจำนวนมาก

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดตั้งชุดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อนให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ เพื่อควบคุมให้การซื้อขายลำไยสดรูดร่วงมีมาตรฐาน ป้องกันปัญหาข้อขัดแย้ง และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการซื้อขายเครื่องวัดที่ผ่านการตรวจรับรองจะต้องติดตั้ง “เครื่องหมายคำรับรอง” เป็นซีลตราครุฑ 3 จุด ได้แก่ บริเวณฝาประกับเครื่อง 2 จุด และระดับน้ำ 1 จุด พร้อมติดสติกเกอร์ตรวจสอบประจำปี โดยมีอายุการรับรอง 2 ปี เพื่อป้องกันการดัดแปลงแก้ไขหลังตรวจสอบเครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อนเป็นเครื่องวัดที่อยู่ในบังคับแห่ง พรบ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม การใช้เครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยฯ ที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับผู้อื่น จะต้องผ่านการตรวจสอบและให้คำรับรอง จากพนักงานเจ้าหน้าที่กองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ทุกๆ 2 ปี

ลักษณะเครื่องวัดสำหรับคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อน

  1. ต้องทำด้วยวัสดุที่แข็งแรงถาวรและไม่เป็นเครื่องมือของการฉ้อโกงได้สะดวก
  2. ต้องแสดงรายละเอียด: เครื่องหมายการค้า,รุ่น, เลขลำดับประจำเครื่อง, ขนาดช่องผ่านที่คัดขนาดของแต่ละตะแกรงขนาดของตัวเครื่องและพิกัดกำลังของเครื่อง
  3. ต้องมีที่สำหรับผนึกเพื่อป้องกันการปรับเปลี่ยนแก้ไขภายหลังการตรวจรับรองแล้วซึ่งการแก้ไขดัดแปลงหรือซ่อมแซมเครื่องวัดฯ จะทำได้ก็ต่อเมื่อทำลายผนึกก่อน
  4. ต้องมีความเที่ยงของขนาดช่องผ่านรูตะแกรงอยู่ภายในอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ หากพบผู้ประกอบการใช้เครื่องวัดที่ไม่ผ่านการรับรอง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 มาตรา 70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับปี 2568 คาดว่าผลผลิตลำไยจะออกสู่ตลาดมากกว่า 740,000 ตัน ทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก โดยกรมการค้าภายในตั้งเป้าตรวจสอบเครื่องคัดขนาดลำไยแบบตะแกรงร่อนกว่า 2,000 เครื่อง เครื่องชั่งน้ำหนักไม่น้อยกว่า 1,000 เครื่อง และสถานประกอบการไม่น้อยกว่า 500 ราย

กรมการค้าภายในจึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรวจสอบและขอรับรองเครื่องวัดตามระเบียบ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการซื้อขาย เสริมความเชื่อมั่นแก่เกษตรกร ผู้บริโภค และตลาดต่างประเทศ พร้อมยืนยันจะดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อให้ฤดูกาลลำไยปีนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย