เมื่อวันที่ 16-17 พฤศิจิกายน 2567 ที่บ้านนาออแกนิก ฟาร์ม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ กรมการท่องเที่ยวเปิดเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ Low Carbon Tourism เส้นทางจังหวัดเชียงใหม- จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทาง จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 11 เส้นทางทั่วประเทศ ภายใต้โครงการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวลดคาร์บอน (Low Carbon Tourism) หวังให้ทุกภาคส่วนตระหนักและให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมสร้างมาตรฐานและส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เพื่อก้าวไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในทุกมิติ โดยมีคณะสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่และผู้เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
กรมการท่องเที่ยวในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวให้ปรับรูปแบบการบริหารจัดการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก จัดอบรมสร้างองค์ความรู้การจัดการก๊าซเรือนกระจก ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและรบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวลดคาร์บอนให้แก่ผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวลดคาร์บอน (Low Carbon Tourism) โดยจัดทำต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเชื่อมโยงกับสถานที่ที่ได้รับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว ซึ่งมี 11 เส้นทางทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย
โดยเส้นทางจังหวัดเชียงใหม- จังหวัดลำปาง กิจกรรมในวันที่ 16 พ.ย. 2567
จุดหมายที่ 1ได้เริ่มต้นกิจกรรมที่ บ้านนาออแกนิก ฟาร์ม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีการสาธิตเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เมี่ยงดอกไม้ สอนวิธีการทำชาจากดอกไม้ เก็บดอกไม้มาทำงานคราฟ
จุดหมายที่ 2 เดินทางไป กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านปงห้วยลาน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน ท่องเที่ยวอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไปชมอ่างเก็บน้ำห้วยลาน(โครงการพัฒนาพี้นที่ห้วยลาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ) วิถีเกษตรพอเพียง การทอผ้าและโรงทอผ้า และกิจกรรมการปักลายตุ๊กตา ของชุมชน สร้างความสุขและสุขภาพดี กับการชิมเมนูอาหาร low carbon
จุดหมายที่ 3 เดินทางไปบ้านหมู่บ้านแม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้และป่าเขา อากาศเย็นตลอดปี มีทรัพยากรและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์มาก ส่งผลให้ชาวบ้านมีน้ำในการทำการเกษตรตลอดปี มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน และป่าไม้ที่สมบูรณ์ สภาพอากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดปี โดยคณะได้เข้ามาเรียนรู้กิจกรรมการเดินป่าระยะสั้นเพื่อศึกษาธรรมชาติของป่าแม่กำปอง ชมโรงคั่วกาแฟ ซึ่งทุกวันนี้ชาวบ้านแม่กำปองได้เข้าใจเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการบริหารจัดการในทุกด้าน รวมถึงรู้จักหน้าที่และบทบาทของตัวเองในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ตลอดจนการร่วมแรงร่วมใจกันในการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้เกิดเป็นผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนเช่นในอดีตที่ผ่านมา”
กิจกรรมในวันที่ 17 พ.ย. 2567
จุดหมายที่ 4 เดินทางไป วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรแจ้ซ้อน หมู่บ้านศรีดอนมูล ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ. ลำปาง ชมผลิตภัณฑ์ ข้าวกล้องอินทรีย์สายน้ำแร่แจ้ซ้อน โจ๊กจมูกข้าวกล้องอินทรีย์สายน้ำแร่แจ้ซ้อน และการสาธิตวิธีการทำข้าว 5 กรอบรวมธัญพืช จากนั้นไปร่วมกิจกรรมที่กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ ฝึกการย้อมผ้า และชมโรงทอผ้าและผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มน้ำมอญแจ้ซ้อน ที่ทอสีจากธรรมชาติใช้น้ำแร่ทอผ้า ปราศจากสารเคมี ผลผลิต เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพ จากนั้นไปชมทุ่งนาข้าวกล้องอินทรีย์สายน้ำแร่แจ้ซ้อน เกษตรปลอดภัยไร้เคมีแจ้ซ้อน ที่มุ่งนำเอาธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยยังรักษาวิถีชีวิตชาวนา ลดต้นทุนการผลิตด้วยการทำน้ำหมักชีวภาพและสารชีวภัณฑ์ ทดแทนสารเคมี ปลอดภัยต่อผู้ปลูกและผู้บริโภค
จุดหมายที่ 5 เดินทางไป อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ. ลำปาง โดยมีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมืองลำปาง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ คือเป็นแหล่งน้ำพุร้อนทาง จำนวน 9 บ่อ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นการได้อาบน้ำแร่แช่ออนเซ็นจากธรรมชาติ ยังมีบ่อแช่ไข่ออนเซ็นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอย่าง “ไข่น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน” ที่มีลักษณะไข่แดงแข็งตัวไข่ขาวเหลว มีสัมผัสการลิ้มรสที่แปลกไม่เหมือนไข่ออนเซ็นที่ใด
น้ำตกแจ้ซ้อน มีน้ำไหลตลอดทั้งปี น้ำตกแจ้ซ้อนมีทั้งหมด 6 ชั้น ล้อมรอมด้วยต้นไม้เขียวขจีด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ และยังมีน้ำตกแม่มอญ น้ำตกแม่ขุน ภายในอุทยานอีกด้วยฯ
กิจกรรมประชาสัมพันธ์ต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่กรมการท่องเที่ยวจัดขึ้นในครั้งนี้ มุ่งหวังให้นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน และชุมชนท่องเที่ยว เกิดความตระหนักรู้ในเรื่องการลดก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากทุกกิจกรรมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่มีการเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมการท่องเที่ยวกับสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่ออกเดินทางโดยใช้พาหนะต่างๆ ตลอดจนการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของสถานประกอบการ ที่มีบทบาทสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกมากขึ้น โดยสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อรับผิดชอบต่อส่วนรวมของคนในพื้นที่ สร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกันทั่วประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและยั่งยืนอย่างแท้จริงตามกระแสและกฎระเบียบใหม่ของโลก
Like (1)
