นักเที่ยวนักดื่มนักฟังเพลงรุ่นเก่ามักคุ้นเคยกับเสฏฐีคอมเพล็กซ์ สถานบันเทิงใหญ่ที่ดึงนักเที่ยวเข้าไปหาความบันเทิงในปี พ.ศ.๒๕๓๗ เจ้าของคือ คุณฐานันดร ถายะพิงค์ ดีเจ.สถานีวิทยุ อสมท.ที่ลงทุนเปิดสถานบันเทิงแห่งนี้
ข่าวหน้าบันเทิงหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๓๗
“เทศกาลเบียร์วุ้นขายดิบขายดี คอเบียร์ชุมนุมคึกครื้นที่เสฏฐีฯ
เทศกาลเบียร์วุ้นของเสฏฐีคอมเพล็กซ์ฉลุย คอเบียร์ชุมนุมกันครึกครื้น ซดกันเปรมราคาประหยัด ๑ ชั่วโมงเต็มๆ ระหว่าง ๑๗.๐๐-๑๙.๐๐ น.พร้อมกับแกล้มรสจี๊ดจ๊าด เสี่ยติ๋ว หรือ ฐานันดร ถายะพิงค์ ดีเจ.เสียงหล่อที่มีไซด์ไลน์เปิดกิจการสวนอาหารชั้นแนวหน้าชื่อดังอยู่ในวงการขณะนี้คือ เสฏฐีคอมเพล็กซ์ ได้เปิดเผยถึงเทศกาลเบียร์วุ้นที่จัดอยู่ในขณะนี้ว่าได้รับความสนใจจากคอเบียร์เป็นอย่างมากเพราะเบียร์ที่เย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งหรือที่เรียกว่าเบียร์วุ้น ตรงกับรสนิยมของคนไทยมาก
เสฏฐีคอมเพล็กซ์เปิดบริการช่วงเบียร์วุ้นเป็นพิเศษพร้อมกับราคาที่พิเศษด้วยเช่นกัน คือระหว่าง ๕ โมงเย็นไปจนถึง ๑ ทุ่ม รวม ๒ ชั่วโมงเต็มๆ โดยขายเพียงขวดละ ๔๐ บาทเท่านั้น เป็นเบียร์สิงห์ล้วนๆ ไม่มียี่ห้ออื่นปนเพราะรายการนี้ขายเบียร์ราคานี้รับรองได้ว่ามีแห่งเดียวในเชียงใหม่เท่านั้น เพราะเชียงใหม่ปิยะมิตรให้เราเป็นพิเศษเพียงแห่งเดียว และช่วงเวลานี้ก็มีกับแกล้มรสเจ็บๆ บริการด้วย ขอเบียร์เย็นๆ หลังเวลางานพร้อมของขบเคี้ยวอร่อยๆ ก็เชิญได้นะครับ ดีเจ.ติ๋วกล่าวเชิญชวนด้วยเสียงหล่อแบบเอ็ฟเอ็ม. สำหรับช่วงเวลาปกติของสวนอาหารเสฏฐีคอมเพล็กซ์คือ ตั้งแต่ทุ่มไปจนถึงดึก ก็มีเสียงเพลงและเสียงร้องจากทีมนักร้องพร้อมทั้งแดนเซอร์สาวสวยและเซ็กซี่โชว์ทุกค่ำคืน”(นสพ.ไทยนิวส์,๑๑ ต.ค.๒๕๓๗)
เจ้าของสถานบันเทิง เสฏฐีคอมเพล็กซ์ คือคุณฐานันดร ถายะพิงค์ ปัจจุบันอายุ ๗๔ ปี(เกิด พ.ศ.๒๔๙๓) เกิดที่ตำบลริมปิง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรคนโตในจำนวน ๓ คนของพ่อชยากร ถายะพิงค์และแม่นิภา ถายะพิงค์ คุณพ่อเคยรับราชการครูมาก่อน ก่อนที่จะเรียนจบด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสอบเป็นผู้พิพากษา เคยรับราชการหลายจังหวัดและเกษียณที่ศาลอุทธรณ์กรุงเทพฯ นอกจากนี้น้องสาวคนเล็กของคุณฐานันดรยังรับราชการเป็นผู้พิพากษาอีกด้วย คือ คุณถวิลวงศ์ จิตวิวัตร์
วัยเด็กคุณฐานันดรมาพักอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านแม่เหียะ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่และเข้าเรียนที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ ๔ จนถึงชั้นมัธยมปลาย รุ่น ๐๘ หลังจากนั้นไปศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ จบจากโรงเรียนพาณิชการพระนคร เริ่มทำงานบริษัทจำหน่ายปุ๋ยและมาทำงานเป็นดี.เจ.จัดรายการเพลงสากลที่สถานีวิทยุ ปตอ.เกียกกาย กรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะเพลงสากล ต่อมาติดตามฟังในระบบรับฟังที่เรียกว่าช้อตเวฟ รับฟังตรงมาจากรายการเพลงของต่างประเทศทั้งยุโรปและอเมริกา ทำให้รู้จักเพลงที่กำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก ซึ่งขณะนั้นรายการที่นิยมคือ อเมริกันทอปโฟตี้(อันดับ ๕๐ เพลงที่นิยมในสัปดาห์) คุณฐานันดรเป็นคนแรกที่ซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้จากบริษัทเอบีซี.วอเตอร์มาร์คมาออกอากาศที่สถานีวิทยุอสมท.เชียงใหม่ ขณะนั้นมีค่าลิขสิทธิ์สัปดาห์ละ ๑๐๐ เหรียญ(ประมาณ ๒,๕๐๐ บาท)
ต่อมาคุณฐานันดรย้ายมาจัดรายการเพลงสากลที่สถานีวิทยุ ททท.ซึ่งขณะนั้นบริหารโดยบริษัทไทยโทรทัศน์ จำกัดซึ่งเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ช่อง ๔ บางขุนพรหมและเป็นเจ้าของสถานีวิทยุ ททท.ซึ่งภายหลังได้แปรรูปมาเป็นรัฐวิสาหกิจ ใช้ชื่อว่าองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ อสมท. เมื่อทางผู้บริหาร อสมท.มีนโยบายขยายกิจการมาต่างจังหวัด คุณฐานันดรจึงประมูลซื้อรายการและเป็นผู้เริ่มต้นสถานีวิทยุ อสมท.ที่เชียงใหม่ ขณะนั้นได้ร่วมกับบริษัทสุริวงศ์เอนเทอเทนเมนต์ของคุณธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ ใช้ดวงตะวันคอนโดมิเนียมเปิดสถานีวิทยุ อสมท.เป็นครั้งแรก คุณฐานันดรเล่าการเริ่มต้นของสถานีวิทยุ อสมท.เชียงใหม่ว่า
“ที่เชียงใหม่ผมเคยจัดรายการเพลงที่สถานีวิทยุของกองทัพภาคที่ ๓ ส่วนหน้ามาก่อน ต่อมาจึงมาประมูลของ อสมท.ที่เชียงใหม่ ลงทุนกับพี่หนุ่ย-ธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่กับพี่แดง-กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผมขนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ มาจากกรุงเทพฯ มาติดตั้ง ส่วนพี่หนุ่ยให้ใช้สถานที่คือ ดวงตะวันคอนโดมิเนียม หลังจากนั้นผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตรายการและจัดรายการเพลงด้วย มีการเปิดรับสมัคร ดีเจ.(ผู้จัดรายการ) คือ ท่านภานุ จุมปามัน(ปัจจุบันบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์), ศรีสุดา ชวชาติ, ศักระพี วงศ์แข, สุวิทย์ จันทร์แดง, สมเกียรติ ช่วงนิสัย, ทัดดาว ประเทืองบูลย์ ส่วนผมจัดรายการเพลงก่อนเที่ยง ๑ ชั่วโมง จัดรายการช่วง ๑๖.๐๐-๑๘.๐๐ น.และช่วงเวลา ๒๑.๐๐ น. เปิดเพลงสากลหลากหลายเพื่อให้คนฟังได้ความรู้ด้านเพลงสากล
“สัญญาการประมูลผลิตรายการครั้งละ ๑๐ ปี ภายหลังผู้บริหารของ อสมท.ที่กรุงเทพฯ บริหารสถานีวิทยุเอง ผมจัดรายการเพลงมาจนตลอดเพิ่งหยุดเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗ ปีนี้เอง ปัจจุบันมีจัดรายการเพลงทางออนไลน์ ๙๘.๕ แฮปปี้เรดิโอ เป็นการเลือกเพลงและวางในโปรแกรมให้ระบบเลือกเพลงออกอากาศเอง”
นอกจากได้ชื่อว่าเป็นนักจัดรายการเพลงสากลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว คุณฐานันดรยังทำธุรกิจด้านสถานบันเทิงอีกด้วยโดยร่วมกับเพื่อนลงทุนสร้างเสฏฐีคอมเพล็กซ์ เป็นที่นิยมของชาวเชียงใหม่เมื่อ ๓๐ ปีเศษที่ผ่านมา คุณฐานันดร ถายะพิงค์ เล่าเรื่องการลงทุนทำสถานบันเทิงเสฏฐีคอมเพล็กซ์ว่า
“ผมจัดรายการวิทยุทำให้รู้จักคุ้นเคยกับเจ้าของบริษัทห้างร้านที่มาโฆษณา เห็นลู่ทางธุรกิจบันเทิงกลางคืนจึงลงทุนกับเพื่อน ๓ คน คนละ ๓ แสนบาท เช่าที่ดินเนื้อที่ ๑๕ ไร่อยู่ติดรั้วโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพด้านมาจากสนามบินเชียงใหม่ เจ้าของที่ชื่อ คุณเอ้ ลงทุนสร้างเวทีและหลังคา ทำที่จอดรถกว้างขวาง เป็นสถานบันเทิงกึ่งสวนอาหารใช้ชื่อว่า เสฏฐีคอมเพล็กซ์ จัดโต๊ะเก้าอี้มากถึง ๑๓๒ โต๊ะ นอกจากมีอาหารเครื่องดื่มบริการแล้ว ด้านความบันเทิงได้ว่าจ้างวงดนตรีของค่ายกาวิละมาแสดงทุกคืนตั้งแต่เวลา ๒๐.๐๐ น.ถึง ๒๓.๓๐ น. เป็นที่นิยมของนักเที่ยวชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
ส่วนสำคัญที่เรียกลูกค้าได้นอกเหนือจากอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ก็คือวงดนตรี ผมจ้างวงดนตรีของค่ายกาวิละเต็มวงมาแสดงทุกคืน นักดนตรีเป็นทหารมีความสามารถกันทุกคน ตั้งแต่ ๑ ทุ่มถึง ๕ ทุ่มครึ่ง บางครั้งจ้างวงดนตรีดังๆ มาจากกรุงเทพฯมาแสดงให้ลูกค้าชม เช่นวงคาราบาว สมัยนั้นมักมาแสดงที่เสฏฐีคอมเพล็กซ์เพราะผมคุ้นเคยกับแอ๊ด(ยืนยง โอภากุล) วันไหนคาราบาวมาแสดงคนเต็มทุกโต๊ะ ในร้านมีโต๊ะถึง ๑๓๒ โต๊ะ แบ่งเป็นโซน เอ.ใกล้เวทีไปถึงโซน ดี.ไกลเวที เคยคุยกับดิ๋ง(พ.ต.อ.วีรยุทธ ประสบโชคชัย)รุ่นน้องมงฟอร์ตตอนนั้นน่าจะเป็นรองผู้กำกับอยู่โรงพักหางดงอยากหาทุนเป็นสวัสดิการตำรวจชั้นประทวน ผมติดต่อวงคาราบาวมาแสดงให้ดิ๋งขายบัตรเป็นโต๊ะ ได้เงินทุนพอสมควร
แต่บางครั้งก็เจอปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลมาเที่ยวในร้าน จำได้ว่าครั้งหนึ่งโซนหน้าเวทีมีกำนันนั้มกับลูกน้องมานั่งดื่ม โซนด้านถัดมาเป็นโต๊ะของอี๊ด ม่วงน้อยกับลูกน้อง ทำท่าจะมีเรื่องกัน พี่ต้องโทรศัพท์ไปบอกพี่ตุ๋ย-พ.อ.ยุทธนา เมืองมั่งคั่ง ขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการทหารมณฑลทหารบกที่ ๓๓ ค่ายกาวิละ มาแสดงตัวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันในร้าน สมัยนั้นนิยมมาชมตลกคาเฟ่กัน ผมจ้างตลกคณะดังๆ จากกรุงเทพฯ มาแสดงที่เสฏฐีคอมเพล็กซ์ทุกคณะ
ส่วนวงดนตรีระดับโลกที่ผมนำมาแสดงที่เสฏฐีคอมเพล็กซ์คือ วงบอนนี่เอ็ม เจ้าของเพลงบาบีลอน เพลงรัสปูติน ขณะนั้นบริษัทเทโรเอนเทอเทนเมนต์จ้างมาแสดงที่โรงแรมแม่ปิงเชียงใหม่ คืนต่อมาพี่พามาแสดงที่เสฏฐีคอมเพล็กซ์ เป็นที่ฮือฮากันมากเพราะหาชมได้ยาก มาร้อง ๔ เพลง ไม่ได้เสียเงินค่าจ้างเพราะคุ้นเคยกับผู้บริหารของบริษัทเทโรฯ”
คุณฐานันดร ถายะพิงค์ กล่าวว่าเสฏฐีคอมเพล็กซ์สร้างผลกำไรได้ดี ดำเนินการรวม ๙ ปีต่อมามีร้านอาหารและสวนอาหารแห่งใหม่สร้างเพิ่มขึ้นทำให้ลูกค้าลดน้อยลงทำให้เสฏฐีคอมเพล็กซ์ต้องปิดตัวลงในที่สุด.
พล.ต.ต.อนุ เนินหาด เรียบเรียง
Like (1)