รองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบาย Quick-Win กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล โดยการจัดเที่ยวบินหลังเที่ยงคืน จะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นหลักสำคัญ
วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการ Kick off ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้บริหารระดับสูงของ ทอท. รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
โดยเที่ยวบินแรกที่ทำการบินหลังเวลาเที่ยงคืน เพื่อเป็นการประกาศให้บริการ 24 ชั่วโมงของท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ 822 เส้นทาง เชียงใหม่-โอซาก้า กำหนดออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) เดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ (โอซาก้า) เวลา 07.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้บริหารของ ทอท.และผู้ร่วมกิจกรรม ได้ร่วมกันแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมือง การประดับตกแต่งบรรยากาศความเป็นล้านนา ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และยังได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ประดับตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ด้วย
ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า การขยายเวลาการเปิดให้บริการของ ทชม. 24 ชั่วโมง อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลตามกฎระเบียบของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2548 ซึ่งมีการประเมินผลกระทบครอบคลุมเวลา 24 ชั่วโมง การขยายเวลาให้บริการจึงไม่จัดเป็นโครงการของรัฐที่เกิดขึ้นใหม่ และไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ทชม.จะดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ฉบับใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 และในระหว่างนี้จะพิจารณาจัดตารางการบินให้เกิดผลกระทบกับชุมชนและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวขึ้นลงของอากาศยานและบริเวณโดยรอบสนามบินให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ปัจจุบัน ทชม.มีจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศรวม 150 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 21,537 คนต่อวัน มีเส้นทางระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง เส้นทางภายในประเทศ 12 เส้นทาง โดยมีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ ได้แก่ ไทเป, อินชอน, คุนหมิง, ปักกิ่ง, ฮ่องกง คาดว่าในเดือนเมษายน จะเพิ่มเส้นทางบินตรง ได้แก่ มุมไบและเดลี มีจำนวนสินค้ารวม 4,328 ตันต่อวัน หลุมจอดอากาศยานพร้อมให้บริการ 16 หลุมจอด ลานจอดรถกลางแจ้งรองรับได้ 700 คัน อาคารจอดรถ 10 ชั้น รองรับได้ 1,000 คัน มีขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี และอยู่ขั้นตอนการศึกษาและออกแบบโครงการพัฒนา ทชม. ระยะที่ 1 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 16.5 ล้านคนต่อปี เพื่อรองรับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่ถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ และประเทศชาติต่อไป
Like (0)