หน้าแรก ข่าวเชียงใหม่ สมาคมสมองกลฝังตัวไทย จัดงานสัมมนา เพื่อหาความร่วมมือแก้ปัญหาฝุ่นควันอย่างถาวร

สมาคมสมองกลฝังตัวไทย จัดงานสัมมนา เพื่อหาความร่วมมือแก้ปัญหาฝุ่นควันอย่างถาวร

487
0

วันที่ 19 เมษายน 2566 – จ.เชียงใหม่ : สมาคมสมองกลฝังตัวไทย (TESA : Thai Embedded System Association) จัดงานสัมมนา “เชียงใหม่ กับ PM2.5 ผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจองค์รวม การออกมาตรการ ควบคุม ป้องกัน ปัจจัยที่ผู้ว่าฯ สามารถควบคุมได้ และ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้” เพื่อหาความร่วมมืออย่างยั่งยืนในการแก้ปัญหาฝุ่นควัน ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว และสุขภาพของประชาชน ของชาวเชียงใหม่เป็นอย่างหนัก โดยในงานนี้ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องและองค์กรที่จะร่วมแก้ปัญหา ณ ห้องหลักเมือง โรงแรมคุ้มภูคำ

ปัญหาฝุ่นควันเรื้อรังมานาน ตั้งแต่ พ.ศ. 2550 จนปัจจุบันกว่า 16 ปี ที่ชาวเชียงใหม่ต้องใช้ชีวิตกับอากาศเป็นพิษ หายใจติดขัด และส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสุขภาพของประชาชนที่รุนแรง โดยการจัดงานสัมนาในครั้งนี้จะเป็นการบรรยายหัวข้อ เชียงใหม่ เมือง Smart แก้ปัญหามลพิษ จังหวัดนำร่อง” แนวทางของ Smart City สำหรับเมืองเชียงใหม่ที่ถูกต้อง เพื่อแก้ปัญหามลพิษ รวมถึงการสร้าง Ecosystem ที่ยั่งยืน สำหรับเมืองแห่งอนาคต ตามนโยบาย ESG โดย ดร.วัชระ ฉัตรวิริยะ นายกสมาคมสมองกลฝังตัวไทย 

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.วัชระ ฉัตรวิริยะ นายกสมาคมสมองกลฝังตัวไทย (TESA : Thai Embedded System Association) นายอนันต์ รุ่งนิรันดร์พร เลขาธิการคณะมนตรีสภาปฏิรูปการศึกษาภาคประชาชน ร่วมเปิดงานอย่างเป็นทางการ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจ้งปัญหาให้ทุกภาคส่วน ที่มีศักยภาพเสนอแนวทางการแก้ปัญหาทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ บูรณาการร่วมกัน ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกแง่มุม ทั้งด้านเศรษฐกิจสุขภาพ อนามัย และสุขภาพจิต ยังผลไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและรายรับของประเทศ

และเพื่อขอความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่มีศักยภาพ และนำแนวทางจากหน่วยงานในต่างประเทศที่มีการนำกระบวนการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรมด้วยแนวคิด ESG (Environment, Social และ Governance) ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น หอการค้าจีน หรือ ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น และเพื่อขอความร่วมมือ ภาคครัวเรือน ภาคประชาชน ให้ตระหนักถึงภาวะสิ่งแวดล้อม และแนะนำการใช้งาน Mobile Application ทั้ง Android และ iOS ชื่อว่า “Windy” เพื่อตรวจสอบสภาพอากาศด้วยตนเอง

Like (0)
บทความก่อนหน้านี้ITEL จับมือ Edge Centres เปิดตัว Data Center แห่งแรกในไทยกลางเมืองเชียงใหม่
บทความถัดไปร่วมไว้อาลัยหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย”