นักเรียนปลูกผักปลอดสารพิษเกษตรทฤษฎีใหม่จากโรงเรียน สู่ บ้านสู่ชุมชน ไปดูน้องๆเด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 หล่ายอิงราษฎร์บำรุง, อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนช่วยคุณครูเก็บผักปลอดสารพิษเพื่อนำมาขายหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับเพื่อนๆนักเรียนที่เรียนดีแต่มีฐานะยากจน
คลิปวีดีโอ
บรรยากาศช่วงเย็นของเด็กนักเรียนที่นี่จะใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนมาช่วยคุณครูเก็บผลผลิตพืชผักสวนครัวที่ตนเองปลูกไว้ ตามโครงการปลูกผักปลอดสารพิษเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำผลผลิตที่ได้นำไปขายให้กับผู้ปกครองที่มารับเด็กนักเรียนที่นี่ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์สร้างรายได้เป็นทุนการศึกษาช่วยเหลือเพื่อนๆที่เรียนดีแต่มีฐานะยากจน
โดยทุกวันน้องๆเหล่านี้จะแบ่งหน้าที่กันทำทั้งรดน้ำผักในแปลงหมักปุ๋ยผักตบชวาหมุนเวียนช่วยกันซึ่งผักปลอดสารพิษภายในโรงเรียนแห่งนี้เด็กๆจะเก็บผลผลิตของแต่ละวันหมุนเวียนกันไปมีทั้งผักคะน้า,ผักบุ้ง,ผักกาดพื้นเมือง,กะหล่ำ,ตะไคร้อื่นๆขายในราคาถูกกำละ10บาทในจุดรับส่งนักเรียนภายในบริเวณที่กำหนดไว้ซึ่งจะมีทั้งผู้ปกครองของนักเรียนเองคุณครูในโรงเรียนและพ่อค้าชุมชนมาซื้อถึงที่ในโรงเรียนถือเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่งและผักที่ปลูกยังนำไปประกอบอาหารกลางวันของแต่ละวันได้อีกด้วยถือเป็นสร้างรายได้ให้กับนักเรียน จากรั้วโรงเรียนสู่ครอบครัว
คุณครู ชวลิต พิศาลชัยกุลคุณครูผู้ดูแลโครงการเปิดเผยว่าทางโรงเรียนได้ปรับพื้นที่รกร้างหลังโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนปลูกผักปลอดสารพิษถือเป็นโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีนายอธิวัฒน์ ทาเป็กนางสาวภัทธนิษฐ์ พินิจสุวรรณคุณครูผู้เริ่มโครงการซึ่งถือเป็นกระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงของเด็กนักเรียนในระดับชั้นมัธยมและประถม
โดยทางโรงเรียนมุ่งเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ เพื่อนำผลผลิตที่ได้ไปประกอบอาหารกลางวันรวมถึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายให้กับโรงเรียนซึ่งเงินที่ได้จากการขายผลผลิตทางโรงเรียนก็จะนำมาต่อยอดหมุนเวียนซื้อเมล็ดพันธุ์ผักและเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่มีฐานะยากจน
ซึ่งถือเป็นอีกกิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษจากโรงเรียน สู่ บ้าน-ชุมชน รวมถึงการ สร้างประสบการณ์เรียนรู้เด็กนักเรียนได้มีทักษะเพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกทางหนึ่งอีกด้วย
อนันต์ ข่าวพะเยา
Like (0)