คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีมอบหมวกและเข็มชั้นปีแก่นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 และ ชั้นปีที่ 4 (หลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2565
โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นประธาน ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.พรศิริ ใจสม รองหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ดร.ปินนเรศ กาศอุดม นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ ผู้แทนจากสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ พร้อมด้วยคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และ ผู้ปกครองของนักศึกษา ร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น
พิธีดังกล่าวจัดภายใต้มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID Free Setting) ณ ห้องประชุมวิจิตร ศรีสุพรรณ อาคาร 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2565
.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ กล่าวว่า พิธีมอบหมวกและเข็มชั้นปีนับเป็นพิธีการที่สำคัญถือปฏิบัติก่อนการขึ้นฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วย เป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์อันทรงเกียรติในวิชาชีพพยาบาล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเข้าสู่วิชาชีพการพยาบาลอย่างสมภาคภูมิ โดยนักศึกษาพยาบาลจะให้การปฏิบัติการพยาบาล รวมทั้งดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์จริง
ทั้งนี้นักศึกษาพยาบาลที่เข้ารับมอบหมวกและเข็มชั้นปีต้องศึกษาภาคทฤษฎีและสอบผ่านรายวิชาการพยาบาลพื้นฐานครบถ้วน จึงจะสามารถฝึกปฏิบัติการพยาบาลกับผู้รับบริการในสถานบริการสุขภาพได้ ในการฝึกปฏิบัติดังกล่าวนักศึกษาต้องแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีขาวของนักศึกษาพยาบาล ตลอดจนสวมหมวกพยาบาล โดย “หมวกพยาบาล” เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอ่อนน้อม ถ่อมตน มีความพร้อมที่จะดูแล ช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ทําให้ผู้สวมใส่ได้ตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ รวมทั้งประพฤติตนให้เหมาะสมตามจรรยาบรรณวิชาชีพทางการพยาบาล
สำหรับนักศึกษาชายติดเป็นเข็มชั้นปี นอกจากนี้การมอบตะเกียงไนติงเกลเป็นสัญลักษณ์ของมิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล บูรพาจารย์ผู้ให้กําเนิดวิชาชีพการพยาบาลของโลก ตะเกียงไนติงเกลนั้นเป็นเครื่องหมายของดวงประทีปแห่งการพยาบาล ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการพยาบาลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ทุกคืนท่านถือตะเกียงเดินเยี่ยมและดูแลทหารที่บาดเจ็บ ดวงตะเกียงจึงเป็นดั่งดวงประทีปที่ช่วยขับไล่ความมืดมนและความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้เจ็บป่วยเป็นสิ่งช่วยเตือนใจนักศึกษาทุกคนให้เสียสละและตระหนักว่าตนเป็นทายาททางการพยาบาลที่สืบทอดเจตนารมณ์ในการดูแลผู้ป่วยต่อไป
.
นักศึกษาทุกคนที่ผ่านพิธีสำคัญในวันนี้แล้วนั้นพึงต้องใช้องค์ความรู้ อีกทั้งคุณธรรมเป็นหลักในการปฏิบัติงาน ขอให้นักศึกษาตั้งใจในการฝึกปฏิบัติ ให้บริการด้านสุขภาพแก่ผู้รับบริการอย่างเต็มกำลังสุดความสามารถ ด้วยจิตอันเป็นเมตตากรุณา เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย) อันเป็นเกียรติประวัติต่อตนเอง ครอบครัว สถาบัน และวิชาชีพพยาบาล