วันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นางมะลิ พิมพา อายุ 51 ปี ตัวแทนชาวบ้าน พื้นที่หมู่ 3 บ้านนาบัว ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายชัยชนะ วงษ์ตระ อายุ 25 ปี บุตรชาย และชาวบ้านอีกประมาณ 20 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกผ่านศูนย์ดำรงธรรม กรณีถูกทหารยศสิบตรี สังกัดกองทัพภาคที่ 3 หลอกให้โอนเงินแล้วจะติดต่อเข้ารับราชการทหารได้ โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท
ด้าน นายชัยชนะ วงษ์ตระ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่วงเดือน ม.ค. 65 ที่ผ่านมา มีทหารยศสิบตรีติดต่อเข้ามาผ่านทางครอบครัว ว่าถ้าหากตนอยากเข้ารับราชการทหารให้โอนเงินมาให้และจะติดต่อเข้ารับราชการทหารได้จริง ด้วยความที่อยากมีอนาคตที่ดีมีหน้าที่การงานมั่นคงจึงหลงเชื่อโอนเงินไปให้หลายครั้ง ประมาณ 3 แสนบาท
จากนั้นจึงได้ไปสมัครสอบที่กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 เมื่อผลสอบออกมาปรากฏว่าได้ลำดับที่ 19 ไม่ติดตัวจริง ก็โทรสอบถามไปที่ทหารยศสิบตรีที่โอนเงินไปให้แต่ก็ไม่รับสาย และก็ไม่ยอมคืนเงินตามที่กล่าวอ้าง คาดว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว จึงปรึกษากับครอบครัวเพื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆ นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าในพื้นที่มีคนถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย จึงเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.นครไทย
ด้าน น.ส.มาริสา กระจ่างศักดิ์ อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ถูกนายทหารยศสิบตรีคนดังกล่าวหลอกโอนเงินเข้ารับราชการทหารเช่นกัน โดยมาพูดจาหว่านล้อมว่าทำงานที่กองทัพภาคที่ 3 และสามารถพาเข้ารับราชการทหารได้จริง สามารถเลือกได้เลยว่าจะติดยศอะไร ตั้งแต่ร้อยตรี ร้อยโท ร้อยเอก หลังโอนเงินประมาณ 5 เดือน ก็จะพาเข้าทำงานได้เลย จึงปรึกษากับแฟนหนุ่มและไปหายืมเงินมาเป็นค่าดำเนินการโอนไปประมาณ 5 แสนบาท และรอเวลาก็ไม่ได้เข้าทำงานสักที จึงโทรไปสอบถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาจึงเริ่มเอะใจว่าน่าจะเป็นการหลอกลวงแน่นอน และมีคนอื่นๆ ในหมู่บ้านโดนแบบตนเช่นกัน
ต่อมา นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นตัวแทนผู้ว่าฯ รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบเองได้ จึงจะประสาน กอ.รมน. จ.พิษณุโลก เพื่อนำเรื่องเสนอกองทัพภาคที่ 3 และหน่วยงานต้นสังกัดของทหารคนดังกล่าวรับทราบเรื่อง พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.นครไทย เพราะผู้เสียหายมีจำนวนมากและเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน โดยทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตั้งข้อหาตามกระบวนการกฎหมายก่อนส่งอัยการฟ้องศาลต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดของทหารรายดังกล่าว พบว่าล่าสุดได้ถูกดำเนินการทางวินัยตามระเบียบ พร้อมกับได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยแล้ว.
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก
Like (0)