เมื่อวันที่ 7 พ. ค 65 น.ส.ดรุณี มะโนธรรม เจ้าหน้าที่พยาบาลจากโรงพยาบาลแม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางสมบูรณ์ พันธ์สมพงษ์ และนางแสงเพชร ผุลวานิชย์ ผู้ประกอบการค้าชาว อ.แม่ลาน้อย ได้พาสื่อมวลชนตรวจสอบดูการก่อสร้างถนนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ซึ่งสัญจรระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน – จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงตัดผ่านกลาง อ.แม่ลาน้อย บริเวณหน้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อย
ซึ่งเป็นทางแยกและเป็นย่านเศรษฐกิจชุมชนของ อ.แม่ลาน้อย ซึ่งในการก่อสร้างมีการไว้พื้นที่เกาะกลางถนนที่มีขนาดกว้างใหญ่จนเกินไป มีวงแหวนรอบ และมีช่องทางเลี้ยวหลายช่องทาง ทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะโดยเฉพาะคนต่างถิ่นเกิดความสับสนในการใช้เลนส์ช่องทางวิ่ง ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้การขยายเกาะกลางถนนที่กว้างใหญ่นอกจากจะทำให้ถนนช่องทางวิ่งผิวจราจรแคบลงแล้ว ยังทำให้ชาวบ้านไม่มีที่จอดยวดยานพาหนะเหมือนในอดีต ทั้งที่เป็นย่านเศรษฐกิจการค้าของเมืองแม่ลาน้อย
น.ส. ดรุณี มะโนธรรม เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลแม่ลาน้อย กล่าวว่า “ ที่ผ่านมามีการร้องทุกข์จากความเดือดร้อนเของเกาะกลางถนนในย่านชุมชนที่มีการก่อสร้างขนาดกว้างใหญ่จนเกินความจำเป็นกับหลายหน่วยงานแต่ไม่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข หลังร้องเรียนไปมีเพียงการนำแผงแบริเออร์พลาสติกมาตั้งกั้นไว้ ยิ่งทำให้เกิดความสับสนแก่ผู้สัญจรเพิ่มมากขึ้น และทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยขึ้นอีก เพราะจุดดังกล่าวถนนช่องทางวิ่งคับแคบและตรงเกาะกลางถนนมีช่องทางเลี้ยวและยูเทิร์นหลายช่องทาง จนทำให้หลายคนสับสนเนื่องจากสัญญาณจราจรไม่ชัดเจน
ขณะที่ไหล่ทางตรงร่องระบายน้ำทำแบบไม่มีฝาปิดทิ้งไว้ ร้านค้าต่าง ๆตลอดแนว ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อทำถนนข้ามร่องระบายน้ำสำหรับสัญจรเข้าออกบ้านของตนเอง นอกจากนี้ยังมีปัญหาฝุ่นกระจายฟุ้งในช่วงหน้าแล้ง และหน้าฝนน้ำไหล่เอ่อจากผิวถนนเข้าบ้านเรือนชาวบ้าน จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรีบเร่งเข้ามาแก้ไขเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอันตรายบนท้องถนนและเพิ่มความสะดวกในกับชาวบ้านในย่านชุมชนเศรษฐกิจการค้าของชาว อ.แม่ลาน้อยตรงนี้ด้วย
น.ส.ดรุณี มะโนธรรม เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลแม่ลาน้อย กล่าวอีกว่า จากการมีเกาะกลางถนนขนาดใหญ่อยู่หน้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อย ทำให้ตนและเจ้าหน้าที่ทำผิดกฎจราจรวันละหลายครั้งในการขับรถเข้าที่ทำงาน เพราะการไปยูเทิร์นก่อนเข้าที่ทำงานตามกฏจราจรที่วางไว้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมากกว่าการขับย้อนลัดเข้าโรงพยาบาลเสียอีก อย่างไรก็ตามหากการร้องทุกข์ผ่านสื่อรอบนี้ไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ลำดับต่อไปก็จะเข้าร้องทุกข์ผ่านทางรัฐสภา เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความเสี่ยงในชีวิตประจำวันของชาว อ.แม่ลาน้อยต่อไป.
โชติ นรามณฑล แม่ฮ่องสอน
Like (0)