บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตร อื่น ๆ ภายใต้ตราสินค้า “KC” ประกาศผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 ปี 2567 รายได้ 765.3 ล้านบาท กำไร 54.9 ล้านบาท ด้านบอร์ดฯ มีมติแต่งตั้ง “องอาจ” เป็น CEO และแต่งตั้ง “วีระ” เป็น CFO พร้อมประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางธุรกิจปี 2567 เตรียมออกสินค้าใหม่ Ready to Eat ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง
SUN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 765.3 ล้านบาท กำไรสำหรับงวด เท่ากับ 54.9 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตลาดในกลุ่มลูกค้ารายใหม่ในแถบประเทศภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา รวมถึงยอดขายภายในประเทศ ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (Ready to Eat) ซึ่งวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแรงของธุรกิจหลัก และสร้างรากฐานการเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารผลิตสินค้าพร้อมรับประทาน (RTE) หรือ Modern Factory ตามแผนธุรกิจที่มุ่งพัฒนาโรงงานและขยายกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทานเพื่อสุขภาพ รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ SUN ได้อนุมัติแต่งตั้ง นายองอาจ กิตติคุณชัย เป็น CEO แทน นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ซึ่งพ้นจากตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 67 และแต่งตั้งนายวีระ นพวัฒนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน (ผู้รับผิดชอบสูงสุดในสายงานบัญชีและการเงิน (CFO)) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 67
นายองอาจ กิตติคุณชัย กล่าวว่า ในปี 2567 SUN มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จ พัฒนาความแข็งแกร่งขององค์กร และเตรียมพร้อมรับความผันผวน โดยบริหาร Supply Chain พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพสินค้า รองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 2/2567 บริษัทเตรียมออกสินค้าใหม่ Ready to Eat วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับตลาดต่างประเทศ นอกจากสินค้าข้าวโพดหวานแปรรูปที่มีการขยายตลาดในกลุ่มลูกค้ารายใหม่แล้ว บริษัทได้พัฒนาและเตรียมพร้อมในการส่งออกสินค้า มันหวาน Retort ไปยังกลุ่มลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น เชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ พร้อมสานต่อนโยบายและแผนธุรกิจของบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
Like (0)