เมื่อวันที่ 1 มิ.ย 64 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานศูนย์สั่งการชายแดนไทย – เมียนมาด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนว่า “ ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU ในฝั่งสหภาพเมียนมาด้านตรงข้าม อ.แม่สะเรียงและ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอนแต่อย่างไร และปัจจุบันทหารเมียนมาไม่มีการนำเครื่องบินรบโจมตีทางอากาศมาเป็นระยะเวลา 32 วันติดต่อกัน
ทำให้ชาวกะเหรี่ยงที่หลบหนีภัยการสู้รบจากฝั่งเมียนมา ข้ามเข้ามาฝั่งไทยอาศัยอยู่ในสถานที่พักรองรับตามแนวชายแดนด้าน อ.แม่สะเรียง มั่นใจในสถานการณ์ว่าปลอดภัยได้พากันเดินทางกลับภูมิลำเนาในรัฐกะเหรี่ยงประเทศเมียนมาไปแล้วจำนวน 363 คน ปัจจุบันคงเหลือผู้หนีภัยชาวเมียนมาอาศัยอยู่ฝั่งไทยจำนวน 255 คน โดยทั้งหมดแยกกันอยู่ในพื้นที่รองรับชั่วคราว 4 แห่ง ใน ต.แม่คง และ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 กองกำลังนเรศวร และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้ให้ความช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัยในขั้นต้นตามหลักมนุษยธรรม โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังนเรศวรได้มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้หนีภัยชาวเมียนมาที่ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่รองรับทั้ง 4 แห่งด้วย
ส่วนราษฎรไทยบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ที่ต้องอพยพออกจากหมู่บ้าน จากเหตุการณ์สู้รบในฝั่งตรงข้าม ปัจจุบันยังอาศัยอยู่ในพื้นที่รวบรวมพลเรือนบ้านห้วยกองคา และบ้านห้วยกองกูด ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 189 คน โดยทุกคนระบุหากมั่นใจว่าการสู้รบฝั่งตรงข้ามสงบลง และมีความปลอดภัยถึงจะกลับเข้าหมู่บ้าน เนื่องจากที่ตั้งหมู่บ้านอยู่ห่างจากพื้นที่การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยไม่ไกลนัก ขณะที่โรงเรียนบ้านท่าตาฝั่ง ที่ตั้งอยู่ห่างจากพื้นที่การสู้รบเพียง 1 กม. ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ฝั่งตรงข้ามเพราะบางวันเกิดการปะทะบางวันสงบลง จึงมีการเลื่อนการเปิดภาคเรียนออกไปเป็นวันที่ 14 มิถุนายน 64 แต่หากเปิดการเรียนการสอนแล้ว แต่ยังคงมีสถานการณ์แทรกซ้อนก็จะมีการอพยพครู นักเรียน เข้าไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือนทันที.
โชติ นรามณฑล ข่าวแม่ฮ่องสอน
Like (0)